เคยมั้ยระหว่างเดินทางแล้วรู้สึกดีกับใครบางคน ทั้งๆ ที่คนๆ นี้ก็ไม่ใช่คนที่น่าสนใจอะไรในเวลาปกติ แต่ทำไมตอนเดินทางถึงได้รู้สึกหวั่นไหวกับคนนี้มากขึ้น จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ ซึ่งวิทยาศาสตร์ได้ทดสอบว่าในช่วงที่มีความไม่แน่นอนบนเส้นทางและการเดินทาง จิตใจเราจะหวั่นไหวได้ง่ายกว่า และสำหรับการเดินทางนั้นมีแต่เรื่องไม่แน่นอน จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครบางคนจะตกหลุมรักและรู้สึกหวั่นใจจิตใจมากขึ้น
ในระหว่างการเดินทาง เรามักจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด อาจเป็นการพบเจอสถานที่ใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน การเดินทางเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้หัวใจของเราตื่นเต้นและรู้สึกมีชีวิตชีวา
นอกจากนี้ การเดินทางยังทำให้เราหลุดพ้นจากกิจวัตรประจำวัน ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร การพบเจอผู้คนระหว่างทางก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การเดินทางมีความหมายและน่าจดจำ บางครั้งเราจะพบว่าการได้พูดคุยหรือทำความรู้จักกับคนแปลกหน้าในช่วงเวลาที่เราออกนอกสถานที่นั้นเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและท้าทาย
บางทีการเดินทางอาจทำให้เรามีโอกาสได้เจอคนที่มีความสนใจเหมือนกัน หรือมีประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกันกับเรา ทำให้เรารู้สึกถึงความเข้าใจและเชื่อมโยงกับคนเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น การได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนเรื่องราวกับคนที่มีประสบการณ์คล้ายกันนั้นมักจะทำให้เราเกิดความรู้สึกดีๆ และอาจนำไปสู่ความรู้สึกหวั่นไหวได้อย่างไม่รู้ตัว
การที่เรารู้สึกหวั่นไหวกับคนแปลกหน้าระหว่างการเดินทางนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ แต่มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงกับผู้อื่น ความไม่แน่นอนและความตื่นเต้นในระหว่างการเดินทางเป็นตัวกระตุ้นให้เรารู้สึกเปิดใจและยอมรับคนใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต
ดังนั้น ครั้งหน้าที่คุณออกเดินทาง ลองเปิดใจให้กว้างและยอมรับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เข้ามา ไม่แน่ว่าคุณอาจจะพบเจอกับคนที่ทำให้คุณรู้สึกหวั่นไหวและประทับใจไปตลอดการเดินทางนั้นก็ได้ การเดินทางไม่เพียงแต่จะทำให้คุณได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ แต่ยังทำให้คุณได้รู้จักกับตัวเองและความรู้สึกของตัวเองมากขึ้นเช่นกัน
บางทีอาจจะถึงเวลาการเดินทาง (ของหัวใจ) แล้วก็ได้นะ