การเดิน เปรียบเสมือนประตูสู่โลกกว้างพาเราออกจากกรอบเดิมๆสู่ดินแดนใหม่ที่เต็มไปด้วยผู้คน วัฒนธรรม ธรรมชาติ และเรื่องราวที่รอการค้นพบ การเดินทางที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางแต่คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ประสบการณ์และบทเรียนอันล้ำค่า การเดินทางที่จะเปลี่ยนมุมมองเปลี่ยนความคิดและเปลี่ยนชีวิตได้
I Wallk – เดินเท้า เกิดขึ้นจากความหลงใหลใน “การเดิน” ที่นี่คุณจะพบกับเรื่องราวการท่องเที่ยวสุดประทับใจ ผ่านสองเท้าสองก้าวเทคนิคเคล็ดลับและคำแนะนำสำหรับนักเดิน แรงบันดาลใจจากนักเดินทางผู้ใช้ “การเดิน” รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการเดิน และชุมชนอบอุ่นสำหรับนักเดิน แบ่งปันประสบการณ์ เรียนรู้ และสร้างมิตรภาพ
อยากเชิญชวนให้ทุกคนออกเดินทางค้นพบโลกกว้างผ่านสองเท้าสองก้าวเดินตามฝันไปด้วยกัน มาสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบใหม่ มาคนพบโลกกว้างผ่านสองเท้าสองก้าวมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนนักเดิน มาสร้างแรงบันดาลใจแบ่งปันเรื่องราวและเรียนรู้จากกันและกัน
ไม่แน่ในบางเส้นทางเดินทางเราอาจได้เดินผ่านกัน แล้วพบกันบนเส้นทาง
คนเดินเท้า: I Wallk – เดินเท้า
ปล. ยินดีต้อนรับทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักเดินมือใหม่หรือมือโปร อย่าลังเลที่จะแชร์ประสบการณ์ เรื่องราว =หรือคำถามที่สงสัย ที่นี่ I Wallk – เดินเท้า มาร่วมสร้างพื้นที่แห่งการแบ่งปัน เรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจไปด้วยกันหากหลงเข้ามาที่นี่แล้วอย่าพึ่งรีบจากกันไปนะ
My Story
คนธรรมดาที่รักการเดินทางแม้จะมีข้อจำกัดมากมาย
โดยส่วนตัวแล้วเราไม่ใช่คนที่เกิดมาในบ้านที่มีฐานะ เราไม่ได้ถูกหวย ไม่ได้ถูกล็อตเตอรี่ เรื่องโชคพวกนี้คือไม่เคยมี เป็นคนป่วยบ่อย ไม่สบายบ่อย วันนึงคือกินเยอะมากและมีเรื่องให้หาหมอได้ตลอดเวลา ไม่ได้เป็นคนแข็งแรง ไม่ได้เป็นคนรวย การงานก็ทำงานปกติแต่ทำงานจากหลายๆงานเลยได้รายได้จากหลายทางและทำให้พอจะเริ่มมีเงินเก็บบ้างในการเดินทาง ที่บ้านไม่เคยสนับสนุนเรื่องเงิน เพียงแต่ว่าเราค่อนข้างจัดการการเงินดี ใช้จ่ายเรื่องอื่นๆน้อย จริงๆก็คือเอาเงินที่มีเพื่อไปเที่ยวกับเก็บเงินไว้ตอนแก่เท่านั้นแหละ
my story
เรื่องราวการท่องเที่ยวนั้นเรียบง่าย จุดเริ่มคล้ายๆกับทุกคนที่ชอบการท่องเที่ยว จริงๆเริ่มต้นจากการเที่ยวกับเพื่อนๆนี่แหละแบบรวมคนแล้วก็เช่ารถตู้กันไปเที่ยวด้วยกันแล้วก็วางแผนไปเที่ยวนั่งข้ามคืนวันศุกร์ไปถึงที่เที่ยวเช้าวันเสาร์ เที่ยวๆๆ แล้วก็กลับมาวันอาทิตย์ถึงเช้าวันจันทร์แล้วก็อาบน้ำไปทำงานต่อ เหนื่อยมั้ยเหนื่อยแต่สนุกมั้ยสนุก ชอบตอนที่ยังมีแรงเที่ยวแบบนี้คือสนุกมาก ไม่ต้องเสียวันลางานก็ไม่เสียด้วย แม้จะเหนื่อยหน่อย ที่ยังทำแบบนี้ได้เพราะยังเด็กแล้วก็ความรับผิดชอบในเรื่องงานไม่สูงมากแบบไม่ต้องแบกกลับมาทำวันเสาร์อาทิตย์ เลยพอมีเวลาว่าง จริงๆส่วนนึงที่ชอบการออกไปเดินทางด้วยคือชอบถ่ายรูป พอถ่ายรูปก็อยากจะหาที่ถ่ายรูปก็จะเสาะหาที่นั่นนี่ไปด้วย ตอนนั้นสนุกเพื่อนเยอะ มีแต่คนคุยเรื่องเที่ยวเรื่องเดินทางเรื่องถ่ายรูปเจอใครก็สนุกก็คุยได้ไปหมด แบบทุกๆวันมีเรื่องสนุกๆ เรื่องใหม่ๆให้สนใจตลอด กลายเป็นว่าไม่รู้ว่าเพราะชอบถ่ายรูปเลยชอบเที่ยว หรือชอบท่องเที่ยวเลยชอบถ่ายรูป แต่ไม่ว่าทางไหนก็ทำให้เราเองชอบการเดินทาง รักการเดินทาง ได้เปิดโลกใหม่ๆ
แล้วก็เริ่มรู้แนวทางตัวเองในการไปเที่ยว จากที่ไปได้หมด ทะเล ภูเขา น้ำตก ขอให้ได้ไปเที่ยวไปได้หมด ก็เริ่มจะมีโฟกัสมากขึ้น ด้วยความที่มีเงินและเวลาเริ่มจำกัด มารู้ตัวอีกทีก็คือหลงหลังภูเขา หลงรักทะเลหมอก หลงรักความหนาวอากาศหนาวแล้วก็เริ่มไปเที่ยวบ่อยมากขึ้นที่ภาคเหนือ ชอบไปเชียงใหม่มาก เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมประจำของทุกๆปีเข้าปีใหม่อากาศหนาว เราเจอกันที่เชียงใหม่ ชอบไปดอย ชอบไปภูเขา ชอบความเหงาๆแบบเชียงใหม่ เมืองที่เงียบๆ มีเอกลักษณ์ เมืองที่เดินช้าๆ ตอนนั้นเรียกได้ว่าเป็นช่วงพีคของเราเลยที่เที่ยวไทยแล้วสนุกมาก
เป้าหมายการท่องเที่ยวเราไม่มีเรื่องของการนับจำนวน หรืออยากไปทั่วประเทศทั่วโลกเลย อยากไปแค่ที่อยากไปหลายๆทีคือไปซ้ำที่เดิม เส้นทางเดิมๆ มันก็คงคล้ายกับร้านอาหารที่ชอบ ร้านกาแฟที่ชอบ ซึ่งเวลาเจอร้านไหนที่ชอบแล้วก็อยากไปซ้ำอีก คงไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบแบบนี้แต่เราจะเป็นหนึ่งในนั้นที่เที่ยวซ้ำได้เก่งมากๆ
นี่แหละคือจุดเริ่มเที่ยวของเรา แต่จะพีคขึ้นเมื่อเริ่มเดินทางต่างประเทศและเริ่มอยากหนีคนขึ้นเขาขึ้นมา ชีวิตก็เริ่มลำบากขึ้นในเร็ววัน
trekking 101
การ Trekking หรือการเดินป่าเนี่ยเป็นเรื่องไกลตัวเรามากเลย ไกลมากแบบมากจริงๆ เคยตั้งคำถามว่าคนพวกนี้จะเสียเงินเสียเวลาเที่ยวแล้วไปเหนื่อยอีกทำไม บ้าไปแล้ว เสียเงินแล้วต้องเที่ยวแบบสบายๆสิ กินหรูอยู่ดีต้องแบบนั้น ตอนเด็กคือการไปเข้าค่ายนี่คือถ้าหนีได้จะอ้างร้อยแปดเพื่อไม่ต้องเข้าค่าย ไม่ชอบการนอนเต๊นท์ ไม่ชอบการต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ชอบความสบาย รักความสบายแล้ววันนึงก็ข้ามเส้นนี้มาอยู่ในโลกนี้เฉย
Trekking Route แรกเลยน่าจะเหมือนกับหลายๆคนคือ”ภูกระดึง” ใช่แล้วภูกระดึง อยากบอกว่าไม่ได้อยากไปเลยแต่ไปเพราะเพื่อนๆไปกันหมดแผนกไม่ไปคือเป็นแกะดำ อ้างเรื่องป่วยแล้วอ้างเท่าไรก็ไม่มีใครยอมก็คือต้องไปด้วย ตอนเดินคือพักทุกซำ เดิน10นาทีนั่งพัก หอบตลอดใช้เวลาเดินทั้งวันไปถึงดึกแบบมองไม่เห็นเลย กางเต๊นท์ลำบากมาก ตอนนอนก็เจอทาก นอนก็ร้อน นอนก็ลำบาก พื้นก็แข็งแถมมีตะปุ่มตะป่ำเต็มไปหมด
ที่ขำกว่านั้นคือใส่กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ชุดแบบไปเที่ยวห้างมาก เดินไปเหนื่อยไป บ่นกับเพื่อนตลอดทาง เหนื่อยก็เหนื่อย ร้อนก็ร้อน ทากก็เยอะ อีกวันเดินไปดูพระอาทิตย์ตกก็เดินทั้งวันไปถึงห้านาทีถ่ายรูปแล้วก็เดินกลับ เดินกลับมาก็มืดๆ ไม่มีอุปกรณ์แสงสว่างใดๆอาศัยเดินตามเค้าเอาคือบอกเลยว่าไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย ไม่ได้ออกกำลังกายฟิตซ้อมไรก่อนเลยไม่รู้เลยต้องทำอะไรบ้าง เพราะไม่อยากไป และสุดท้ายก็คือวันลง เอ้า เหนื่อยอีก เมื่อยอีก กว่าจะลงมาได้คือแทบตาย แบบอยากนอนตรงนั้น
แต่ปัญหาคืออีกวันต้องทำงานนี่สิ
ซึ่งอีกวันที่ไปทำงานคือสภาพย่ำแย่มากทั้งเหนื่อยและเดินไม่ได้ ขายกไม่ขึ้นเลย เป็นสภาพที่ยำ่แย่มาก และบอกเลยจากทริปนี้ก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกอยากเทรคมากขึ้น ซึ่งระหว่างนั้นใครชวนไปไหนแนวนี้คือไม่ไปเลย ไม่ไปเด็ดขาด จนเวลาผ่านมาได้ประมาณซัก 10 ปี เริ่มเป็นเรื่องที่เอามาเล่ากับเพื่อนๆแล้วสนุกดี ตอนนี้มันเริ่มสนุกแล้วเวลาเล่า จนคิดว่าก็ไม่แน่นะอาจจะอยากลองเทรคกับเค้าอีกทีก็ได้แต่ต้องเตรียมพร้อมก่อน รอบนี้อาจสนุกกว่าเดิมก็ได้
start
เมื่อเวลาผ่านไป trekking ครั้งแรกที่เลือกเองก็มาถึง trek ที่เลือกนั้น เลือกจากชื่อและวิวที่ชื่นชอบที่เคยไปมาเห็นแล้วชอบ ถ่ายรูปแล้วสวย ถ้าขึ้นไปยืนข้างบนวิวจะเป็นยังไงนะ นั่นคือคำถามที่ถามตัวเองและเป็นที่มาของ trek แรก
ใช่แล้ว mt. fuji
mt. fuji ที่ขี้อายและเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคนและเราด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย trek แรกนี้เราจะเลือกไปขึ้น fuji ทำการจอง hut ด้านบนเรียบร้อย ยิ่งเวลาใกล้มาเรื่อยๆยิ่งตื่นเต้น จนมาถึง 2-3 เดือนก่อนวัน trek ไม่รู้ไปทำอะไรมาแต่รู้สึกเจ็บเข่าแบบเจ็บบอกไม่ถูก เลยไปหาหมอ หมอจับๆถามๆตรวจๆเลยจับทำ mri ทีนี้ละงานเข้าเลย “acl” หรือ ‘เอ็นไขว้หน้าหัวเข่าขาด” ตอนนั้นคือแบบอึ้ง งง ไม่เข้าใจ ไม่ได้ทำอะไรมา ไม่ได้มีอุบัติเหตุ แต่คิดว่าอาจไม่ได้ขาดแบบ 100% เลย อาจจะมีบางช่วงที่ขาดและบางช่วงที่ยังยึดอยู่แต่จากผล mri คือมีอาการอักเสบรุนแรงมากและหมอที่วินิจฉัยก็คือวินิจฉัยว่า “acl”
ทำไงดีละ “acl” ปัญหาแรกคือ จะไปไหวมั้ย จะขึ้น fuji ที่วางแผนไว้จะได้มั้ย ถ้าไปได้จะฟิตยังไงจะต้องทำยังไงให้ดีขึ้น เรื่องนี้เล่าแล้วยาว แต่อยากบอกว่าแค่เริ่มก็เจอกับ “ปัญหา” ใหญ่มากๆแล้วแต่นั่นแหละหาทางจนได้ไปและขึ้นมาและลงมาได้สำเร็จ กลัวทั้ง ams และกลัวทั้ง acl แต่เดี๋ยวจะหาโอกาสเขียนเล่าอีกที
ความกลัวไม่ใช่เหตุผลให้หยุดได้ เมื่อเข้าสู่โลกนี้แล้วออกยาก ทำได้แค่เดินไปเรื่อยๆ เดินต่อไปและต่อไป
my passion
การเดินเท้าของเราทำให้เราเจอตัวเองว่าจริงๆแล้วเราชอบเดินเที่ยวเดินไปยังที่ต่างๆแบบได้เดินสำรวจแม้ว่าบางทีขึ้นรถแล้วจะเดินทางง่ายกว่าสะดวกกว่าเมื่อยน้อยกว่า แต่เราก็เลือกจะเดินไม่ใช่เพราะอยากประหยัดหรอกนะ แต่อย่างนึงที่เห็นได้จากการเดินคือได้ซึมซับและเห็นชีวิตของคนพื้นที่นั้นๆพร้อมกับได้สำรวจความเป็นไปของแต่ละพื้นที่ ได้survey พื้นที่ว่ามีร้านอาหารมีอะไรบ้าง แล้วยิ่งมาผสมกับการเดิน trekking ด้วยแล้วแม้ว่าจะยากและเหนื่อยสำหรับเราแต่มันกลับสนุกมาก
นานวันเข้าจึงยิ่งตกผลึกว่าเราเองชอบการเดินเขา การเดินไปเรื่อยๆในที่ๆสวยๆภูเขาสวยๆที่ๆซึ่งไม่ค่อยมีผู้คน ทำให้เรามีเวลากับตัวเองได้เยอะทำให้ได้คิดได้ตอบคำถามของตัวเองหลายอย่าง การเดินที่ยากนั้นยิ่งทำให้ต้องโฟกัสกับการเดินมาก ยิ่งการเดินที่สูงมากเท่ารการต่อสู้กับ ams ก็เป็นเรื่องที่ต้องโฟกัสมากขึ้นทุกก้าวเดินต้องระวัง ทุกการหายใจต้องสังเกตุ ปัญหาใหญ่ๆต่างๆเริ่มเล็กลงเมื่อตัวเราอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้นทำให้ตัวเราและปัญหาดูเล็กลงไป การสนุกกับเส้นทางตามเท้าและความท้าทายของธรรมชาติทำให้เราไม่สามารถโฟกัสกับปัญหาอื่นๆใดได้ ปัญหาอย่างเดียวคือต้องเอาตัวรอดกลับไป ห้ามตกเขา ห้ามป่วย เพราะไม่ใช่ทุกที่ที่จะสามารถหาตัวช่วยให้เราออกจากปัญหานั้นๆได้ อย่างเดียวที่จะทำได้คือตัวเราเองเท่านั้น
เมื่อมาถึงวันนี้เราเลยรู้ว่า การได้เดินเที่ยวมันดีมากๆ และก็ทำให้เรารู้ว่าเราชอบภูเขามากกว่าทะเลเยอะและก็ชอบการเที่ยวที่หนาวๆอากาศเย็นๆมากและเพื่อนๆละชอบแบบไหนกัน
last chapter
หลายคนบอกว่าเราเองเสพติดการท่องเที่ยว ซึ่งก็จริง ไม่เถียง วันๆนั่งหาข้อมูล นั่งดูคนนั้นคนนี้ไปเที่ยว จนเริ่มมีความคิดอยากเอาเรื่องดีๆที่หามา ข้อมูลที่มีอยู่เต็มหัว เอามาแชร์ให้ทุกๆคนได้ติดตามกันผ่าน Blog ท่องเที่ยวอันนี้ ซึ่งเราตั้งใจทำมากๆ โดยที่การเที่ยวของเรานั้นจะไม่ค่อยได้เที่ยวแบบกินหรูอยู่ดีเท่าไร ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นทริปที่เหนื่อย แต่สนุก แล้วก็มีรูปภาพสวยๆเยอะมาก
I Walk – เดินเท้า จึงเป็นพื้นที่ที่เราอยากจะนำเสนอเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับการท่องเที่ยว Tips และเทคนิคดีๆในการเดินทาง การเตรียมตัวไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ รวมถึงให้รายละเอียดที่น่าสนใจกับจุดหมายปลายทางแต่ละที่ ไม่ว่าจะเป็นในไทยหรือต่างประเทศและเป็นประโยชน์กับทุกๆการเดินทาง และที่สำคัญคืออยากให้ที่แห่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้ออกเดินทางและเดินตามฝัน
ยังอยากรู้อะไรเพิ่มกันอีกมั้ย……..บอกกันได้นะ