อาจจะเป็นเหตุผลของใครหลายคนที่รู้สึกว่าตัวเองป่วยอยู่เลยไม่สามารถทำให้ไปเที่ยวหรือเดินทางได้ ก็อาจจะจริงหากว่าเป็นการป่วยที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ หรือการป่วยติดเตียงอันนี้ก็น่าจะจริงสำหรับการเดินทางก็จะกลายเป็นเรื่องยาก
เราเองก็เป็นคนนึงที่ป่วยบ่อยๆ กินยาทีเยอะเลย เวลาไปเที่ยวต้องเตรียมยาไปเยอะมาก แต่จะเอาไปน้อยหน่อยหากเวลาเดินทางกันไปหลายคนหรือว่าการเที่ยวในเมือง (ที่คิดว่ายาพอหาซื้อได้ไม่ยาก) แต่ยาประจำก็ต้องเอาไป ถามว่าป่วยเป็นไรบ้าง ไม่ได้มีโรคร้ายแรงแต่ก็ต้องกินยาบ่อยๆ ที่เป็นก็คือ ภูมิแพ้อากาศคือไปที่ไหนอากาศเพี้ยนจากเดิมไปก็จะเริ่มป่วยแล้วพอเริ่มป่วยก็จะมาหมดหวัด ไข้ ไอ จาม น้ำมูกน้ำตาไหล นอกจากภูมิแพ้ก็ยังเป็นกรดไหลย้อน ท้องอืดท้องเฟ้อ ปวดท้อง หิวก็ปวด อิ่มก็ปวด ขับถ่ายยาก และมี ACL (เอ็นไขว้หน้าขาด) และ depress และโรคนอนไม่หลับ เห็นมั้ยว่าเยอะจริงๆ
แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลว่าเราจะไม่ออกเดินทาง สิ่งที่เราทำทุกครั้งก็คือเตรียมตัวให้พร้อมทุกครั้งไหนๆว่าสภาพร่างกายเราแย่กว่าคนอื่นดังนั้นต้องชดเชยด้วยการเตรียมพร้อมให้มากขึ้น ก่อนไปทุกครั้งจะตระเวนไปหาหมอเพื่อเช็คสภาพตัวเองพร้อมทั้งบอกให้หมอโรคต่างๆได้ฟังพร้อมกับบอกถึงจุดหมายปลายทางที่จะไป ว่าจะไปแบบไหน อากาศเป็นยังไง เพื่อให้หมอช่วยประเมินสภาพและ (อาจ) จะมียาบางอย่างที่จำเป็นต้องติดตัวไปจะได้มีใบรับรองแพทย์เพื่อนำยาต่างๆเหล่านั้นติดตัวและเดินทางไปต่างประเทศได้ นอกจากหมอและยาแล้ว การเตรียมตัวเองเช่นการออกกำลังก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะเมื่อไม่แข็งแรงแล้ว เราจำเป็นต้องยกระดับความแข็งแรงของร่างกายขึ้นมาให้เท่าหรือมากกว่าคนอื่น ทำไมต้องแข็งแรงแบบนั้น จริงๆเลยคงเป็นเรื่องของการต้องช่วยเหลือตัวเอง (และคนอื่นในทริปได้) เช่นการแบกของ แบกกระเป๋าตัวเอง การแบกของขึ้นลงรถไฟการต้องปีนขึ้นลงบันไดในที่ๆไม่มีลิฟท์ และอีก 108 กิจกรรมที่อาจต้องเจอในระหว่างไปเที่ยว
จากการต้องเตรียมตัวต่างๆรวมถึงการต้องไปเจอหมออยู่บ่อยๆกลับแปลกที่ว่าระหว่างเดินทางนั้นกลับไม่ค่อยป่วยเลยแม้จะเจออากาศที่แปรปรวน อากาศที่แตกต่างกับที่ไทย การใช้ร่างกายที่หนักกว่าเดิม ซึ่งเราเองก็คงเดาว่านั่นเป็นเพราะพอรู้ตัวเองมากขึ้นว่าตัวเองป่วยและต้องการระวังเป็นพิเศษทำให้เกิดการระวังตัวมากขึ้นและเตรียมตัวมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้จากการที่ชอบเดินป่าขึ้นเขา กลายเป็นว่ากิจกรรม trekking นี้กลับช่วยได้เยอะเรื่องของจิตใจและความเครียดต่างๆแม้ว่าระหว่างการเดินนั้นจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากและเหนื่อยมากแต่ว่ามันได้ช่วยคลายความเครียดในใจความเครียดในร่างกายและเป็นการฟื้นฟูตัวเองให้กลับมาปกติได้มากขึ้นแม้ไม่ต้องมียาช่วยมาก
ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เขียนมานี้ไม่ได้ต้องการอวดหรือโม้อะไร แต่กลับกันกลับอยากเป็นกำลังใจให้กับคนที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงแต่ยังอยากเดินทางอยู่ ซึ่งในมุมเราแล้วคิดว่าเดินทางได้แต่การจัดการจำเป็นต้องรัดกุมและไม่ประมาท คนที่สุขภาพไม่แข็งแรงกว่าคนอื่นจำเป็นต้องระมัดระวังและเข้าใจตัวเองให้มากกว่าคนอื่นและจำเป็นต้องพยายามมากกว่าคนอื่นแต่สิ่งเหล่านั้นจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าร่างกายจะอ่อนแอแต่ใจไม่อ่อนแอตามเราจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เป็นกำลังใจให้นะ
#เที่ยวเพื่อสุขภาพ#เดินทางแม้ป่วย#เตรียมตัวยามเดินทาง#ท่องเที่ยวปลอดภัย#สุขภาพดีไม่มีข้อจำกัด